วันอังคารที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2558

ล้างรถง่ายๆด้วยเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง

ล้างรถง่ายๆด้วยเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง
สมาชิกหลายท่านคงเจอกับตัวปัญหาที่ว่า ทำไมช่วงฤดูฝน รถที่เพิ่งจะล้างแล้วเสร็จจะต้องเปื้อนเปรอะอีกแล้ว ทำให้เบื่อหน่ายกับคราบตะไคร่น้ำ หรือคราบดำที่ฝังที่แน่นตามพื้นหน้าบ้าน รอยเปื้อนห้องน้ำที่ซกมกเหลือเกิน เมื่อทำความสะอาดทั้งหมดนี้ถ้าจะต้องออกกำลังชำระล้างด้วยตัวคนเดียวก็คงจะเหนื่อยมากเครื่องไม้เครื่องมือที่หลายท่านมองหาอยู่เพื่อมาช่วยผ่อนคลายปมปัญหาเหล่านี้ คือ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง แล้วต้องซื้อ แบบไหนดี ความแรงกี่บาร์ ถึงจะเหมาะกับงานที่เหมาะสม

ใช้ล้างรถอย่างเดียว
สำหรับท่านผู้อ่านบ้านไหนที่ใช้ล้างรถอย่างเดียว เช่น รถกระบะ ล้างรถเก๋ง จักรยาน มอไซด์ ฟอร์นิเจอร์ ล้างแอร์  และงานบ้านทั่วไป ก็ควรเลือกซื้อแค่แรงดัน 100 bar ก็เพียงพอมากแล้ว แต่ถ้ามีงบประมาณสักหน่อย ก็ดูสัก 120 bar เป็นต้น


ใช้เพื่อล้างรถและพื้นหน้าบ้าน ขอบขัณฑสีมาไม่กว้างมาก
แนะนำความแรงสัก 120 bar เหมาะสำหรับการใช้งานไม่เกิน 1 ซ.ม.


ใช้ล้างพื้นโดยเฉพาะเลย และใช้ล้างรถเป็นบางครั้ง
แนะนำแรงดันสัก 130 บาร์  ใช้งานติดต่อกันอยุ่ที่ 1 ชั่วโมงครึ่ง ถึง 2 ซ.ม.

จุดดีของเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง 
ประหยัดเวลาในการทำงาน เช่น ล้างพื้น ล้างรถ ใช้งานง่าย และประหยัดการใช้น้ำลงไปถึง 50-60 % ส่วนเครื่องที่เป็นระบบ auto stop ระบบเครื่องจะการหยุดทำงาน ในขณะที่ไม่ได้กดไกปืนฉีดน้ำ โดยเราไม่ต้องเสียเวลาเดินไปเปิด-ปิดเครื่องบ่อยๆ เนื่องจากจะมีระบบตัดไฟตัดน้ำอัตโนมัติถ้าหากเครื่องร้อนมากเกินไป

น้องๆหลายคนคงร้อนใจว่า ซื้อแรงดันสูงเวลานำไปใช้งานและล้างรถยนต์ สีของรถยนต์จะส่งผลอันตรายไหม จริงๆแล้ว อู่ล้างรถใช้แรงดันอยุ่ที่ 150-180 bar ซึ่งสเปค 100 - 130 bar ไม่เป็นอันตรายต่อสีรถแน่นอน

ข้อแนะนำการใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง
• ควรปล่อยให้น้ำไหลเข้าเครื่องสักพักก่อน แล้วค่อยเปิดใช้งานเครื่อง เพื่อป้องกันเครื่องชำรุด
• หากเครื่องมีปัญหา เช่น เครื่องกระตุกควรหยุดการใช้งานเครื่องแล้วเปิดใหม่ หากยังกระตุกอยู่ควรส่งเครื่องให้ช่างตรวจสอบ
• ขณะใช้งานไม่ควรให้สายส่งน้ำบิดงอเพราะตอนใช้งานแรงดันภายในสายจะมีมากอาจทำให้สายหมดสภาพได้
• ขณะใช้งานแนะนำให้สวมเครื่องป้องกันดวงตา รองเท้านิรภัย อุปกรณ์ปิดปาก-ปิดจมูก เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและน้ำกระเด็นใส่
• ควรไล่แรงดันภายในสายหลังเลิกใช้งาน ด้วยการกดไกปืน 1 ครั้ง
หากปฏิบัติตามคำแนะนำก็สามารถใช้งานเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงได้อย่างถูกวิธีและปลอดภัยไร้กังวลแล้วคะ

วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

เลือกซื้อปั้มลมตามปริมาณลม

จําหน่ายปั๊มลม "Air Compressor" ใช้ในการอัดลมให้มีแรงดันสูงตามที่เราอยากเพื่อนำไปใช้ประโยชน์และประยุคใช้ได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบลมในโรงงานอุตสาหกรรมตั้งแต่ขนาดเล็ก ตลอดจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ระบบนิวเมติกส์ และอุตสาหกรรมครัวเรือน เช่นร้านซ่อมรถ ซึ่งจะใช้เป็นเครื่องปั๊มลมชนิดลูกสูบ (Piston Air Compressor) เพราะใช้แรงดัน (Pressure) ไม่สูงมาก เป็นต้น ส่วนปั๊มลมขนาดเล็กที่ใช้ในโรงงานส่วนใหญ่นั้นส่วนใหญ่แล้วจะใช้เป็นปั้มลมประเภทสกรู (Screw Air Compressor) ซึ่งจะใช้แรงลมที่มากกว่า
ปั๊มลมชนิดต่างๆ

วิธีเลือกซื้อเครื่องปั๊มลม

เราต้องเลือกดูงานที่เราจะใช้ เราต้องการปั้มที่แรงดันมากน้อยขนาดไหน ปริมาณลมที่ต้องการมาก ความต่อเนื่องของงาน หรือปริมาณการจ่ายลม ลมที่ใช้ต้องสะอาดระดับไหน เช่น การใช้ทำงานของช่างไม้ ใช้ปั้มลูกสูบ อาจจะต้องการแรงลมมากพอสมควร อาจจะข้อเปรียบเทียบเรื่องความต่อเนื่องของงานทำให้ ขนาดของถังบรรจุลมที่ใหญ่ สามารถทำงานได้สม่ำเสมอ เครื่องก็จะไม่ต้องทำงานหนักคือปั้มทำงานบ่อย เมื่อไหร่ความดันหรือปริมาณลมลดต่ำลง หรือ จะใช้ปั้มลมกับแอร์บลัช พื้นที่การใช้งานมีส่วนสำคัญ เช่น บริเวณชุมชน บ้านพักอาศัย อาจก่อให้เกิดปัญหากับคนข้างบ้านได้ ความแตกต่าง ระหว่าง ปั้มลมสายพาน กับโรตารี่ (Rotary) ปั้มลมสายพานจะเสียงเบากว่าปั้มลม โรตารี่ (Rotary) ถ้าหากต้องการลมที่มีความสะอาด ใช้ปั้มลมแบบ ไดอะเฟรม เพราะลมจะไม่ได้สัมผัสกับโลหะเลย แต่ให้แรงลมน้อย ใช้กับอุดสาหกรรมเคมี อาจมีอาการลมขาดตอนบ้าง ส่วนปั้มลมแบบสกรูเราจะพบเห็นตามโรงงานเป็นเป็นส่วนใหญ่ ให้แรงลมต่อเนื่องและมีความดันตามขนาดของตู้ เป็นต้น

แนะนำวิธีการซื้อปั้มลมใช้เองที่บ้าน

เครื่องปั๊มลมราคาถูกที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้สูงสุดคือ เครื่องสูบลมแบบลูกสูบ (PISTON COMPRESSOR) มีหลายยี่ห้อเช่น TRYTON,OKURA, PUMA, SWAN, RAMBO, ROWEL, ANTO
ให้เราเลือกจากการใช้งานของเรา
1. แรงดันลมที่ลูกค้าใช้งาน
2. ปริมาณแรงลมที่ใช้ต่อเนื่อง
3. สถานที่ใช้งาน เนื่องจากปั้มลมแต่ละหมวด จะมีเสียงดังไม่เท่ากัน
4. ลมที่ใช้งานมีความสะอาดขนาดไหน

ปั้มลมสามารถแบ่ง 6 แบบ

1. ปั๊มลมขนาดเล็กหรือ ปั๊มลมขนาดเล็กแบบลูกสูบ (PISTON COMPRESSOR)
2. ปั้มลมหรือ ปั้มลมแบบสกรู (SCREW COMPRESSOR)
3. เครื่องปั๊มลมหรือ ปั๊มลมขนาดเล็กแบบไดอะเฟรม (DIAPHARGM COMPRESSOR)
4. เเครื่องปั๊มลมหรือ เครื่องสูบลมแบบใบพัดเลื่อน (SLIDING VANE ROTARY COMPRESSOR)
5. เครื่องสูบลมหรือ เครื่องสูบลมแบบใบพัดหมุน (ROOTS COMPRESSOR)
6. เครื่องปั๊มลมหรือ ปั้มลมแบบกังหัน (RADIAL AND AXIAL FLOW COMPRESSOR)

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

มาทำความรู้จักปั๊มน้ำและจุดดีของปั๊มน้ำกันเถอะ
ปั๊มน้ำ เป็นเครื่องมือช่างหรือเครื่องมือไฟฟ้าอีกฝ่ายหนึ่งที่ใช้มาก ในอุตสาหกรรมและ ตามบ้านเรือน โดยล้วนๆตามที่พักอาศัยซึ่งเป็นอาคารชุด ตามอาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ต่างๆ หรือในบางพื้นที่

ที่ต้องการสูบน้ำจากใต้ดินขึ้นมาใช้
ดังนั้นการรู้จักมักจี่ซื้อ รู้จักวิธีการใช้และการติดตั้ง “ปั๊มน้ำ” อย่างถูกวิธีจะไม่ก่อให้ เกิดการรั่วไหลและเปลืองพลังงานและเป็นการใช้ไฟฟ้าและใช้น้ำอย่างมี ศักยภาพ และราคาปั๊มน้ำที่ถูกลงมาก

ตระกูลของปั๊มน้ำ (ตามลักษณะการทำงาน)
ปั๊มแบบใบพัด
ปั๊มน้ำประเภทนี้ภายในเรือนปั๊ม จะมีใบพัด ปฏิบัติภารกิจสร้างความดัน จากการหมุนที่ความเร็วรอบสูงและแรงดันทำให้ น้ำไหลไปตามท่อที่ต่อไว้ได้ นิยมนำมาใช้ใน อุตสาหกรรมและตามที่อยู่อาศัยทั่วไป

เพราะ การไหลของนาจะต่อเนื่องสม่ำเสมอ

เครื่องปั๊มน้ำแบบลูกสูบ
ปั้มน้ำกลุ่มนี้เรือนปั๊มเป็นกระบอกสูบ ภายในจะมีลูกสูบ ทำหน้าที่สร้างความดันจากการเคลื่อนที่ของลูกสูบ ทำให้ความจุของ กระบอกสูบลดลงเกิดเป็นความดันเพื่อขับดันนาให้ไหลไปได้ แต่การไหลของนา

จะเป็นช่วงๆ ตามจังหวะการเคลื่อนที่ของลูกสูบ ส่วนใหญ่นำไปใช่ในงาน ที่ต้องการความดันสูง

การทำงานของปั๊มน้ำ
ปั๊มน้ำ เป็นเครื่องมือช่างที่ใช้ข้างในบ้านเป็นชนิดที่มี ใบพัดภายในหัวปั๊มหรือเรือนปั๊ม  ใบพัดเป็นตัวสร้างความดันเพื่อ ขับดันให้น้ำไหลไปได้โดยมีชุดสวิตซ์ความ ดันเป็นวัสดุควบคุมการทำงานของ

ปั๊มน้ำ ในการติดตั้งปั๊มน้ำ ท่อส่งน้ำ จะต่อโดยตรงกับจุดใช้น้ำ เช่นฝักบัว ก๊อกน้ำ ชักโครก เป็นต้น เพราะฉะนั้นเมื่อเราเปิดฝักบัวหรือก๊อกน้ำ น้ำจะ ไหลออกจากท่อหรือระบบทำให้ความดัน ภายในท่อลด

ลงส่งผลให้เกิดการดัดต่อของ สวิตซ์ความดัน ปั๊มน้ำจึงทำงาน
การเปิดก๊อกน้ำมีผลต่อการทำงาน ของปั๊มน้ำเป็นอย่างมาก ถ้าเราเปิดก๊อก น้ำเพียง ตัว และน้ำไหลไม่แรงมากแล้ว การทำนจะไม่ตัดต่อบ่อยเพราะยังมี ความตันเหลืออยู่ในเส้นท่อมาก แต่ถ้าเรา เปิดก๊อก

ให้น้ำไหลแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ท่าให้ความดันเสียเร็วขึ้นปั๊มน้ำก็จะ ท่างานบ่อยมากขึ้น ตังนั้นเพื่อเป็นการ รัดเข็มขัดน้ำและไฟฟ้าควรเปิดก๊อกน้ำใช้ตามความจำเป็น แต่ในกรณีที่เราจำเป็นจะต้องเปิดใช้น้ำ

หลายจุด พร้อมกัน เช่น ใช้ฝักบัวอาบน้ำพร้อมกับล้างจานและรดน้ำต้นไม้ จะทำให้ปั๊มน้ำทำงานทุกขณะ ดังนั้นการใช้น้ำในแต่ละจุดจึงไม่ควร เปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้สม่ำเสมอ